จ้างนักสืบอย่างไรไม่ให้ถูกหลอก
วงการธุรกิจแทบทุกประเภทมีทั้งผู้ประกอบการมืออาชีพ ทำงานซื่อตรงตามมาตรฐานอาชีพของตน และมิจฉาชีพหลอกลวงฉ้อโกงลูกค้า ซึ่งในวงการธุรกิจนักสืบเอกชนก็มีมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่เช่นกัน ทำให้ผู้ว่าจ้างจำนวนหนึ่งที่หาข้อมูลไม่รอบคอบถูกหลอกและสูญเงินไปจำนวนมาก ขณะที่ปัญหาของผู้ว่าจ้างไม่ได้รับการแก้ไขเนื่องจากผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นนักสืบไม่ทำงานตามข้อตกลง ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นนักสืบตัวจริงและทำงานอย่างซื่อตรงจึงแนะนำปัจจัยสำคัญสำหรับใช้เป็นแนวทางจ้างนักสืบเพื่อป้องกันการถูกหลอกไว้ ดังนี้ 5 ปัจจัยประกอบการเลือกจ้างนักสืบ จ้างบริษัทที่มีชื่อเสียง: ควรจ้างบริษัทนักสืบเอกชนชื่อดัง ดำเนินธุรกิจมานาน มีผลงานเป็นที่ยอมรับของผู้ว่าจ้าง ได้รับความเชื่อถือจากสื่อมวลชนและสังคม และประวัติการทำงานขาวสะอาด ไม่มีประวัติการฉ้อโกงผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้ บริษัทชื่อดังส่วนใหญ่กำหนดค่าจ้างไว้สูง แต่ก็คุ้มค่าสำหรับลูกค้าที่มีกำลังจ่าย มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง: บริษัทที่เชื่อถือได้ต้องมีสำนักงานหรือที่ทำการของบริษัท เป็นหลักแหล่ง ตรวจสอบได้ และสามารถติดต่อหรือเข้าพบผู้บริหารรวมทั้งนักสืบได้ง่าย ทีมงานมีประสบการณ์: บริษัทที่ดีต้องมีทีมงานนักสืบที่มีประสบการณ์อย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป ยิ่งเป็นบริษัทใหญ่ที่มีทีมงานจำนวนมากยิ่งน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทชั้นนำส่วนใหญ่มีทีมงานนักสืบที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ทำสัญญาว่าจ้างที่ชัดเจน: บริษัทที่ทำงานได้มาตรฐานต้องมีการทำสัญญาว่าจ้างที่ชัดเจน มีการจัดรูปคดีเป็นระบบ ระบุระยะเวลาทำงาน สามารถติดตามงานได้ง่าย และเรียกรับค่าจ้างตามที่ทำสัญญาไว้โดยไม่มีการเพิ่มค่าบริการภายหลัง หากมีการเพิ่มค่าบริการภายหลังโดยอ้างเหตุผลต่าง ๆ จัดว่าเป็นบริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือ มีหลักฐานการทำงาน: ต้องจัดทำเอกสารการทำงานและมีหลักฐานที่ได้จากการสืบสวน โดยหลักฐานดังกล่าวจะต้องสามารถนำไปใช้เป็นพยานในชั้นศาลได้ ทั้งนี้ นักสืบต้องรายงานผลการทำงานอย่างซื่อตรง รายงานตามความเป็นจริง